top of page

สิงโตน้ำเงินคราม

เชลซี เอาชนะแมนเชสเตอร์สิตี้ 1-0 ได้แชมป์ยุคที่ 2 ในประวัติศาสตร์กลุ่ม


ในรอบชิงแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก รวมทั้งเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปีที่จะขึ้นหัวหน้าฝูงยุโรปอีกรอบ แมนเชสเตอร์สิตี้ของกวาร์ดิโอล่า ประสบผลสำเร็จ ขั้นตอนการของแคมเปญนี้ ทำให้หายใจไม่ออกรวมทั้ง เชลซี ก็ทำลายล้างแมนเชสเตอร์สิตี้ ด้วยความซื่อ แมนเชสเตอร์สิตี้ มิได้สร้างจังหวะที่ดีตลอดครึ่งแรก รวมทั้งการผ่านบอลก็ไม่อาจจะทำให้ได้รับอันตรายได้


ประตูของเชลซีมาในนาทีที่ 42 กับเกมตอบโต้กลับแบบคลาสสิก เมาท์ ผ่านแนวรับ รวมทั้งฮาเวิร์ตซ์ ภายหลังเอดสันโดนหักเงิน เชลซี นำ 1-0. ในตอนช่วงหลังเกิดอุบัติเหตุอีกที ในนาทีที่ 56 ของเกม เกฟิน เดอ เบรยเนอ แกนหลักของแมนเชสเตอร์สิตี้ ได้รับบาดเจ็บโดยตรงจากรูดิเกอร์ เดอบรอยน์ไม่อาจจะกลั้นน้ำตาได้ แล้วก็แมนเชสเตอร์สิตี้ เสียผู้เล่นที่สำคัญที่สุด


ในนาทีที่ 72 เชลซีได้โอกาสต่อสู้อีกรอบ แต่ว่าฮาเวิร์ตส์เดินตรงไป และก็พูลิสิชยิงได้กว้าง เซร์ฆิโอ อาเกวโร ถูกแทนที่ในนาทีที่ 76 สำหรับเพื่อการต่อสู้คราวสุดท้าย แม้กระนั้นเขาก็ยังไม่อาจจะฟื้นได้ในจุดนี้เชลซีหัวเราะเป็นคราวสุดท้าย เชลซีเอาชนะแมนเชสเตอร์สิตี้ แล้วก็ครอบครองแชมป์เป็นยุคที่ 2 ในประวัติศาสตร์ เมื่อเทียบกับฤดู 2011-12



คราวนี้เชลซียังมองโลกในแง่ดีน้อยกว่า ในพรีเมียร์ลีกเพียงแต่ชั้น 4 โดยมี 19 คะแนนที่หายไปจากแมนเชสเตอร์สิตี้ด้วย ด้วยเหตุนี้เชลซียังคงมีเสียงหัวเราะ ในแชมเปียนส์ลีกเป็นคราวสุดท้าย และก็ได้ขึ้นอันดับต้นๆของยุโรปอีกรอบ ภายหลังจาก 9 ปี ประวัติศาสตร์สำคัญสามประการ ที่มีค่าแก่การสนใจ ขั้นตอนแรกเชลซีแปลงเป็นกลุ่มที่ 4 ในประวัติศาสตร์อังกฤษที่คว้าชัยชนะแชมเปี้ยนส์ลีกหลายครา ก่อนหน้าที่ผ่านมามีหงส์แดง 6 ครั้ง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 3 ครั้ง และก็น็อตติ้งแฮมฟอเรสต์ 2 ครั้ง


ประการลำดับที่สอง ทูเชลเปลี่ยนเป็นผู้ฝึกสอนอีกคน ที่ได้แชมป์แชมเปียนส์ลีก เป็นครั้งแรก รวมทั้งแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก 2 ครั้งของเชลซีก็มาถึงกลางทางของผู้ฝึกสอนแล้ว ความแปลกประหลาดของทูเชล มิได้ด้อยไปกว่าดิมัตเตโอ ประการลำดับที่สามเชลซี คว้าชัยชนะแชมเปี้ยนส์ลีกในฐานะกลุ่มเต็ง 4+9 ก่อนเปิดฤดูพรีเมียร์ลีก และก็นี่ยังเป็นแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก ที่เหลือเชื่อที่สุด ในตอนไม่กี่ปีให้หลัง


ในรุ่งอรุณของวันที่ 30 เดือนพฤษภาคมแมนเชสเตอร์สิตี้ เล่นกับเชลซีในรอบชิงแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก แม้กระนั้นโชคร้ายที่กวาร์ดิโอล่าล้มลงอีกที 0-1 ที่เชลซีแชมเปียนส์ลีกอีกที ในนาทีที่ 8 ของครึ่งแรกสเตอร์ลิงทำคะแนนได้เพียงแต่ครั้งเดียว ภายหลังได้รับความทรุดโทรม จากเจมส์เขายิงส้นของเขา ได้รับการช่วยชีวิตโดย เอดัวร์ แม็งดี้ เป็นที่โชคร้ายที่ไม่สามารถที่จะทำแต้มได้


ในนาทีที่ 38 เชลซีได้รับความย่ำแย่หนักก่อน ได้รับบาดเจ็บ และไม่สามารถยื้อได้เขาสามารถเปลี่ยนแปลงได้โดย อันเดรส คริสเตนเซนเพียงแค่นั้น โทมัส ทูเคิล ยังให้คำกล่าวสองสามคำเมื่อเขาลงสู่สนาม ซึ่งนับว่าเป็นข้อด้อยอย่างไม่ต้องสงสัย อย่างไรก็ดีมันเป็นแมนเชสเตอร์สิตี้ ที่ทำผิดพลาดก่อนในนาทีที่ 42 การปกป้องของแมนเชสเตอร์สิตี้ ติดช่องว่างฮาเวิร์ตซ์ตรงเข้าไป เอ็ดสันทำผิดพลาด แล้วก็ยิงบอลให้เชลซี 1-0


ย้อนกลับไปช่วงหลัง ทั้งคู่กลุ่มไม่เปลี่ยนแปลงในตอนแรก แมนเชสเตอร์สิตี้ ยังคงล้อมเชลซีอยู่ เนื่องมาจากสกอร์ชักช้า แม้กระนั้นก็ทำแต้มมิได้ แมนเชสเตอร์สิตี้ ก็โดนในนาทีที่ 58 เหมือนกัน เดอ บรอยน์ ปะทะกับ รูดิเกอร์ เกฟิน เดอ เบรยเนอ ไม่อาจจะยืนหยัดสำหรับเพื่อการชิงชัยได้ เฆซุส นาบาส เข้ามาแทนที่


สำหรับแมนเชสเตอร์สิตี้ซึ่งตามหลัง 0-1 กวาร์ดิโอล่าแพ้เดบรอยน์ แล้วก็แทนที่เฆซุส นาบาส แต่ว่าถัดมาเขาก็ยังเล่นเฟอร์นันดินโญ่ แล้วต่อจากนั้นกุนโดกันก็ได้รับอิสระด้วยเหมือนกัน มีปัญหากับผู้เล่นตัวจริง สำหรับเกมนี้หรือเปล่า แล้วต่อจากนั้นเชลซียังได้โอกาส แต่ว่าพูลิสิชเข้าได้ เตะครั้งเดียวพลาด ถ้าเกิดทำประตูได้อีกทีแมนฯ ซิตี้จะจบ


พบเหตุการณ์ถอยหลัง 0-1 แมนฯ ซิตี้ล้อมเชลซีนี่เป็น การคุ้มครองป้องกันที่ยากที่สุดในโลกหรือเปล่า อเกวโร่ถูกแทนที่ด้วยในนาทีที่ 77 แมนเชสเตอร์สิตี้ครอบครองบอลถึง 60% แม้กระนั้นทำคะแนนมิได้กวาร์ดิโอล่าทำแต้มมิได้ ในเกมนี้เชลซีคันเทอร์บอกให้เห็นถึงระดับลักขโมยที่สุดยอดอีกรอบ พูดได้ว่าภายใต้การปกป้อง และก็การลักขโมยแนวรุกของแมนเชสเตอร์สิตี้ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงแน่ๆว่า กวาร์ดิโอลาปรารถนาสร้างทหารที่น่าแปลกใจ รวมทั้งคำตอบก็คือ วุ่นวายนิดหนึ่ง



เชลซี ในครึ่งแรก ฮาแวทซ์ ทำประตูได้อย่างดียิ่ง


นี่เป็นครั้งแรกที่แมนเชสเตอร์สิตี้ เข้าถึงรอบชิงแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก เพราะฉะนั้นก็เลยได้โอกาสที่จะเติมเต็มช่องว่างของแชมเปี้ยนส์ลีก ที่ไม่เคยมีมาก่อนของกลุ่ม ในฐานะตัวเก็งลำดับที่หนึ่ง ที่ชนะแมนเชสเตอร์สิตี้ คว้าลำดับต้นๆด้วยการชนะ 5 ครั้งและก็เสมอ 1 ครั้งในรอบแบ่งกลุ่มแล้วหลังจากนั้น ก็ไม่เข้ารอบโบรุสเซียดอร์ทมุนด์ และก็กรุงปารีสในรอบ 3 นัดหมายยิงได้ 12 ประตูแล้วก็เสียเพียงแค่ 3 ประตู แล้วก็ฆ่าสองครั้งทุกๆสองรอบต่อเนื่องกันศัตรูที่น่าประหลาดใจ


รอบชิงแชมป์นี้เป็นครั้งแรก ที่แมนเชสเตอร์สิตี้ ได้เล่นกับกลุ่มจากพรีเมียร์ลีกในแชมเปี้ยนส์ลีก ในช่วงฤดูกาลนี้ อย่างไรก็แล้วแต่สำหรับการแข่ง 13 นัดหมายปัจจุบันระหว่างทั้งคู่กลุ่มแมนเชสเตอร์สิตี้ เป็นข้างเหนือด้วยการชนะ 7 เสมอ 1 รวมทั้งแพ้ 5 ในด้านของการเริ่มต้นแมนเชสเตอร์สิตี้ ปรับรายนามผู้เล่นตัวจริงกวาร์ดิโอล่า ส่งสเตอร์ลิงไปด้านหน้าสองครั้งกับม่าห์เรซ และก็เชลซียังคงปลดปล่อยให้แวร์เนอร์ ปฏิบัติภารกิจเป็นลูกศรเดียว


ในนาทีที่ 7 ของการเปิดบอลเอ็ดสันได้บอลยาว รวมทั้งสเตอร์ลิงได้บอล แล้วก็ยิงครึ่งหนึ่งเดียวท้ายที่สุด หันไปทางเมนดี้ผู้เฝ้าประตูผู้ยิงถูกบล็อก และก็พลาดประตู แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บีบคั้นอย่างมาก แนวรับเบาๆว่างเปล่า เชลซีชุบมือเปิบ ในนาทีที่ 42 เมานต์จ่ายบอลตรงเข้ามาใกล้วงกลมกึ่งกลาง สร้างการเคลื่อนที่ด้วยมือเดียว และก็ภายหลังผ่านผู้เฝ้าประตู เขาก็ทำประตูไม่และก็ช่วยทำให้เชลซีนำ 1-0


ในตอนช่วงหลัง แมนเชสเตอร์สิตี้ ถูกตีในนาทีที่ 59 เดอ บรอยน์ได้รับบาดเจ็บที่มุมตาของเขา ภายหลังชนกับรูดิเกอร์ และไม่สามารถเล่นเกมต่อได้ เขาถูกแทนที่โดยเฆซุส ในนาทีที่ 60 สเตอร์ลิงยิงเข้าจุดโทษอย่างแรง และก็มีผู้ต้องสงสัยว่าจะไปโดนแขนของผู้เล่นเชลซี ผู้ตัดสินไม่ยอมรับที่จะให้เตะจุดลูกโทษหมายความว่าไม่มีปัญหา ในนาทีที่ 72 ฮาเวิร์ตซทำคะแนนพูลิสิชยิงกว้าง แล้วก็แมนเชสเตอร์สิตี้หนีห่าง ตอนท้ายแมนฯ ซิตี้ก็ยังไม่อาจจะตีเสมอได้


หนึ่งประตูในครึ่งแรก เดบรอยน์ถอนตัวจากการบาดเจ็บ ในช่วงหลังแมนเชสเตอร์สิตี้ โดนยิงซ้ำบ่อย และก็กวาร์ดิโอล่าไม่สามารถที่จะกลับขึ้นสู่ฟ้าได้สุดท้าย ทำอะไรผิดที่จะจบผลของการแพ้คราวสุดท้ายของกลุ่ม นี่เป็นจังหวะที่ใกล้เคียงที่สุดของแมนเชสเตอร์สิตี้ ในแชมเปี้ยนส์ลีกจนกระทั่งบัดนี้ ผลก็คือพวกเขาเล่นได้ไม่ดีพลาดแชมเปี้ยนส์ลีก


ครั้งแรกแล้วก็คลาดโอกาสที่จะเป็นกลุ่มที่หกของพรีเมียร์ลีก ที่จะคว้าชัยชนะแชมเปี้ยนส์ลีก ในกลุ่มพวกเขากวาร์ดิโอล่าล้มเหลวสำหรับในการนำกลุ่มคว้าชัยชนะแชมเปี้ยนส์ลีกอีกที ภายหลังผ่านไป 10 ปีและก็ในขณะเดียวกันสถิติ การนำแมนเชสเตอร์สิตี้ครอบครองแชมป์ถ้วยท้ายที่สุดก็สิ้นสุดลง สำหรับแมนเชสเตอร์สิตี้ค่า 1.02 พันล้านยูโรพวกเขาพลาด แล้วก็ได้แชมป์ด้วยสถิติไม่แพ้ผู้ใดกัน เพราะว่าภายหลังจากเข้าถึงรอบชิงแชมป์ คราวหนึ่งพวกเขาชนะ 11 ครั้งรวมทั้งเสมอ 1 ครั้ง แม้กระนั้นเดี๋ยวนี้ก็จบลงแล้ว


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจในวันนี้ : ยูโรเปียนคัพ

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : UFAbank

Comments


bottom of page